สิ้นแล้ว..กำลัง
ยามเมื่อรัก รักกันปานจะกลืน แสนสุขชื้นวันวานผ่านเร็วไฉน
แม้จะเดินเยื้องย่างแห่งหนใด ก็คอยชิดคอยใกล้มิคลาดคลา
พอคืนวันผินผันผ่านเลยล่วง ที่โชติช่วงด้วยรักเริ่มเหือดหาย
กลับทิ้งนางต่อสู้อยู่เดียวดาย มีลูกชายตัวน้อยเจ้าคอยตาม
กระเสือกกระสนดิ้นรนเลี้ยงชีวิต ถักพลาสติกพวงกุญแจ เฝ้าเร่ถาม
เข้าบ้านโน้นออกบ้านนี้เช้าเย็นยาม ให้ครั้นคร้ามอนาคตที่มืดมัว
พวงกุญแจที่เร่ขายหมายเลี้ยงชีพ เพื่อยืดชนยังชีพ..มิใช่ชั่ว
แต่สังคมทุกวันเห็นแก่ตัว สิ้นแรงคว้าเป็นลม...ล้มกลางเมือง
“ฅนจร”
๑ มีนาคม ๒๕๓๙
ความเป็นมา อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐฉบับวันที่เท่าไรจำไม่ได้ แต่เป็นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๓๙ เป็นภาพเป็นข่าวในกรุงเทพฯเมืองหลวง ข่าวเสนอว่า มีแม่ลูกออกเร่ขายพวงกุญแจ และผู้เป็นแม่เป็นลมที่ริมถนน เนื่องจากความหิว “ก็ให้อเนจอนาถใจกับภาพข่าวที่เห็น ถ้าสังคมไทยเราเกื้อกูลช่วยเหลือกันเหมือนแต่ก่อน ปัญหาอย่างนี้อาจจะไม่มีให้เห็น แต่ด้วยสภาพสังคมแบบดั้งเดิม (ปฐมภูมิ) กำลังล่มสลาย ความเลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจของคนไทย แตกต่างกันมากมาย เหมือนกราฟแท่ง สูง : ต่ำ อัตราหรือช่องว่างห่างกันมากเราจะมีวิธีแก้ไขอย่างไร เพื่อผู้ยากจนเหล่านั้น” โดยเฉพาะในระบบเศรษฐกิจแบบ “ไหใหญ่ล้น ไหน้อยบ่เต็ม”ของไทยในปัจจุบัน
ภาพประกอบจากเว็ป "พุทธทำนาย"
ภาพประกอบจากเว็ป "พุทธทำนาย"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น