วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554
การส่งเสริมเอกลักษณ์และสัญลักษณ์ประจำชาติ
การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมสำหรับนักเรียนที่ดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ ๒ การปลูกฝังคุณธรรม ความสำนึกในความเป็นชาติไทย และวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุบลราชธานี เขต ๓ ได้จัดสรรงบประมาณให้กับโรงเรียนที่เป็นแม่ข่ายคุณธรรม จำนวน ๑๘ เครือข่าย การที่เครือข่ายใดจะได้มากได้น้อยนั้น ขึ้นอยู่กับจำนวนโรงเรียนในแต่ละเครือข่ายที่มีไม่เท่ากัน
กิจกรรมที่ทางโรงเรียนแม่ข่ายที่จะดำเนินการร่วมกับโรงเรียนในเครือข่ายมีกิจกรรมหลัก ๓ กิจกรรมคือ
๑.กิจกรรมโครงงานคุณธรรมสำนึกดี CSR ซึ่งทุกโรงเรียนจะต้องดำเนินโครงงานอย่างน้อย โรงเรียนละ ๑ โครงงาน สพป.อบ.๓ กำหนดจัดประกวดโครงงานคุณธรรม "เยาวชนไทยทำดี ถวายในหลวง"ในวันที่ ๖,๘,๙ กันยายน ๒๕๕๔ โดยแยกเป็น ๓ ระดับดังนี้
วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๔ เป็นการประกวดในระดับชั้น ป. ๑- ๓
วันที่ ๘ กันยายน ๒๕๕๔ เป็นการประกวดในระดับชั้น ป.๔ - ๖
วันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๔ เป็นการประกวดในระดับชั้น ม.๑ - ๓
การประกวดโครงงานคุณธรรม "เยาวชนไทยทำดี ถวายในหลวง"ที่จะจัดใน ๓ วันดังกล่าวนี้ โรงเรียนที่ชนะเลิศในแต่ละระดับชั้น จะได้เป็นตัวแทน สพป.เข้าร่วมประกวดงานศิลปหัตถกรรมที่กำหนดจัดขึ้น ณ จังหวัดมหาสารคามในปี ๒๕๕๔
๒.กิจกรรมศูนย์การเรียนรู้พุทธศาสนาสร้างจิตอาสาชุมชน (ศูนย์ Give&Take) ศูนย์นี้ทุกโรงเรียนต้องดำเนินการ ในวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๔ สพป.อบ.๓ ได้ประชุมผู้บริหารโรงเรียนแม่ข่ายคุณธรรม ๑๘ เครือข่าย เพื่อหารือในการพัฒนาด้านจิตอาสา ในการประชุมในครั้งนี้ กำหนดให้จัดประชุมปฏิบัติการจิตอาสา ทั้งนี้ สพป.อบ.๓ กำหนดจัดอบรมปฏิบัติการในวันที่ ๑๙ - ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๕๔ สถานที่ ใช้ห้องประชุมแก่งสะพือ สพป.อบ.๓ โดยกำหนดดังนี้
๑.โรงเรียนส่งครูโรงเรียนละ ๑ คนเข้าร่วมอบรม
๒.ลงทะเบียนคนละ ๓๐๐ บาท โดยใช้งบประมาณที่โรงเรียนแม่ข่ายได้รับ
๓.อบรมปฏิบัติการจำนวน ๒ วัน วันแรกเป็นการให้ความรู้ วิทยากรที่มาให้ความรู้คือ นายถาวร คูณิรัตน์ ผอ.สพป.อบ.๓ วันที่ ๒ เป็นการลงปฏิบัติในพื้นที่
การอบรมปฏิบัติการจิตอาสาในครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ที่รับผิดชอบโครงการคุณธรรมในโรงเรียนได้เข้าใจแนวทางการดำเนินงานในเรื่องของศูนย์การเรียนรู้พระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี
๓.กิจกรรมค่ายพระ ครู ผู้ปกครอง เป็นกิจกรรมที่ทุกโรงเรียนต้องดำเนินการการดำเนินการอย่างไรนั้น(แยกกันทำ หรือ รวมกันทำ) ต้องได้มาจากการประชุมปรึกษาหารือกันของแต่ละเครือข่ายงบประมาณได้จากในส่วนที่จัดสรรให้
กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับระบบดูแลนักเรียน การประชุมร่วมกันของ ครู ผู้ปกครอง ผู้นำศาสนาในหมู่บ้าน เพื่อเป็นการระดมความคิดในการแก้ปัญหาของนักเรียน เยาวชนในหมู่บ้านเช่น ปัญหาด้านยาเสพติด การออกกลางคันของนักเรียน การทะเลาะวิวาท ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้ว ลดน้อยลงหรือหมดไป
เอกลักษณ์และสัญญลักประจำชาติไทยนั้น เป็นอีกภารกิจหนึ่งที่ทุกโรงเรียนต้องดำเนินการ เอกลักษณ์เป็นการบ่งบอกถึงความเป็นตัวตน การปลูกฝังในเรื่องเอกลักษณ์ความเป็นชาติไทยก็เป็นการบ่งบอกว่า นี้คือลักษณะของคนไทย
เอกลักษณ์ของชาติที่ครูเราจะต้องร่วมกันรณรงค์เพื่อให้เกิด ให้มี ในเยาวชนที่เป็นนักเรียนในสถานศึกษานั้นประกอบด้วย การให้รู้จักและเข้าใจในเรื่อง ธงชาติ การใช้เลขไทย พุทธศักราช(พ.ศ.) การใช้ภาษาไทย ความเข้าใจในสัญญลักษณ์ประจำชาติไทย(ช้างไทย ดอกราชพฤกษ์ ศาลาไทย) การใช้ผ้าไทย การร้องเพลงไทย การไหว้ การใช้โต๊ะหมู่บูชา การศึกษาและการร้องเพลงพระราชนิพนธ์ การศึกษาวันสำคัญของพระมหากษัตริย์ ความจงรักภักดี การมีระเบียบวินัยจราจร การเข้าคิวชื้อสิ่งของ เป็นต้น
ในท่ามกลางความขัดแย้งกันทางการเมือง ที่ต่างฝ่าย ต่างมุ่งเน้นในเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่เพื่อนครูทุกคน จะต้องช่วยกันในการพัฒนาเยาวชนของชาติผู้ที่จะเป็นอนาคตของประเทศให้มีความเป็นตัวของตัวเองในด้านการคิด ให้รู้เท่า รู้ทัน รู้กัน รู้แก้ ในทุกประเด็นปัญหา ที่เขากำลังเผชิญ ขอขอบคุณเพื่อนครูที่รักทุกท่านที่ได้ทุ่่มเทแรงกาย แรงใจให้กับงานพัฒนาสังคมให้มีความสงบและสันติ ไว้ณที่นี้
อภิชาติ ศรีภาค์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น